แชร์

อาการปวดข้อตอนเช้า : สัญญาณเตือนของโรคอะไรบ้าง

อัพเดทล่าสุด: 11 พ.ย. 2025
9 ผู้เข้าชม

โรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อมีหลายชนิดที่พบบ่อย เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคกระดูกพรุนและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งมีสาเหตุ การดูแลและข้อควรระวังที่แตกต่างกันไป 

โรคที่พบบ่อย

  • โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) : เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อต่อ มักเกิดบริเวณข้อที่รับน้ำหนัก เช่น ข้อเข่าและข้อสะโพก ทำให้เกิดอาการปวด บวม และข้อยึดตึง
  • โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) : ภาวะที่มวลกระดูกลดลง เนื้อกระดูกบางลง ทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่าย แม้เกิดการกระแทกเพียงเล็กน้อย
  • โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) : เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังที่ข้อต่อ โดยเฉพาะข้อมือและข้อนิ้วมือ
  • โรคเกาต์ (Gout) : เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวดข้ออย่างรุนแรงและเฉียบพลัน
  • กระดูกหัก (Bone Fracture) : การบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุหรือความเปราะบางของกระดูก 
    สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

สาเหตุหลักๆ 

  • อายุที่เพิ่มขึ้น : เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคข้อเสื่อมและกระดูกพรุน
  • เพศ : เพศหญิงมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนสูงกว่าเพศชาย โดยเฉพาะหลังวัยหมดประจำเดือน เพราะการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • น้ำหนักตัวมากเกินไป : เพิ่มภาระให้กับข้อต่อที่รับน้ำหนัก โดยเฉพาะข้อเข่า
  • การใช้งานข้อต่อซ้ำๆ หรือการบาดเจ็บ : การทำงานหรือกิจกรรมที่ใช้ข้อต่อหนักเป็นเวลานาน
  • พฤติกรรมเสี่ยง : การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการบริโภคอาหารเค็มจัดหรือเครื่องดื่มคาเฟอีนสูง
  • พันธุกรรม : มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกหรือข้อ
  • การใช้ยาบางชนิด : เช่น ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน

การดูแลและข้อควรระวัง : การดูแลรักษามุ่งเน้นที่การป้องกัน ชะลออาการ และจัดการความเจ็บปวด 
การดูแล

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : เน้นอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว เพื่อเสริมสร้างกระดูก
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก กล้ามเนื้อ และเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ
  • ควบคุมน้ำหนัก : เพื่อลดภาระที่กระทำต่อข้อต่อ
  • การรับแสงแดด : ในช่วงเช้าเพื่อช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียม
  • ปรึกษาแพทย์ : หากมีอาการปวดข้อเรื้อรังหรือได้รับบาดเจ็บ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง

สิ่งที่ควรระวัง 

  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายกระดูก : งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และอาหารโซเดียมสูง เพราะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและทำให้กระดูกฟื้นตัวช้าลง
  • ระมัดระวังการใช้ยา : หากจำเป็นต้องใช้ยาสเตียรอยด์ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  • อย่าฝืนใช้งานอวัยวะที่บาดเจ็บ : หากมีการบาดเจ็บหรือกระดูกหัก ควรพักการใช้งานตามคำแนะนำของแพทย์
  • ป้องกันการหกล้ม : โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เนื่องจากกระดูกจะเปราะบางและเสี่ยงต่อการหักได้ง่าย
     


บทความที่เกี่ยวข้อง
"เล็บของคุณ" กำลังบอกอะไรคุณอยู่ ?
ลักษณะเล็บที่ผิดปกติ เช่น เล็บเปลี่ยนสี เล็บขรุขระ เล็บเป็นหลุม หรือเล็บโค้งผิดรูป สามารถบ่งบอกถึงโรคต่างๆ
21 พ.ย. 2025
ปัญหาของวัยทำงาน "ภาวะหมดไฟ"
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) ถือเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญในกลุ่มวัยทำงาน
14 พ.ย. 2025
ภัยเงียบในลำไส้ : ส่องโรคที่พบบ่อย พร้อมความอันตรายถึงชีวิต
โรคที่พบบ่อยเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
18 ต.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy