แชร์

สร้างกระดูกให้แกร่ง ไม่ต้องรอแก่!

อัพเดทล่าสุด: 11 พ.ย. 2025
7 ผู้เข้าชม

การเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกเป็นกระบวนการที่สำคัญและควรเริ่มต้นตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ใช่เพียงแค่การรอรับมือกับความเสื่อมตามวัยชรา เนื่องจากมวลกระดูก (Peak Bone Mass) จะสะสมถึงระดับสูงสุดในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (ประมาณ 20-30 ปี) หลังจากนั้นความหนาแน่นของกระดูกจะเริ่มคงที่หรือลดลงอย่างช้า ๆ การสร้างมวลกระดูกให้ได้สูงสุดตั้งแต่วัยเด็กจึงเป็น "เงินฝาก" ทางสุขภาพที่สำคัญยิ่งในการป้องกันภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) ในภายภาคหน้า

หลักการดูแลกระดูกตลอดช่วงวัย

  • โภชนาการที่ครบถ้วน : การได้รับแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แคลเซียม และ วิตามินดี อย่างเพียงพอ เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด
  • กิจกรรมทางกายที่เหมาะสม : การออกกำลังกายที่มีแรงกระทำต่อกระดูก (Weight-bearing and resistance exercises) เช่น การเดิน การวิ่ง การกระโดดเชือก และการยกน้ำหนัก จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงและหนาแน่นขึ้น
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง : งดสูบบุหรี่และจำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงจำกัดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือน้ำอัดลมในปริมาณมาก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการดูดซึมและการสะสมแคลเซียม

บทบาทของแคลเซียมต่อสุขภาพกระดูกในแต่ละช่วงวัย

  • แคลเซียมเป็นแร่ธาตุหลักที่เป็นองค์ประกอบของกระดูกและฟัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 99% ของแคลเซียมทั้งหมดในร่างกาย ความต้องการแคลเซียมจะแตกต่างกันไปตามการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในแต่ละช่วงวัย (อ้างอิงตามค่าปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทยหรือ RDI ที่ใกล้เคียง)

ทารก ( 0-1 ปี ) 

  • ความต้องการแคลเซียมโดยประมาณ 400 - 600 มิลลิกรัม/วัน
  • เป็นช่วงวัยของการสร้างกระดูกและฟันอย่างรวดเร็ว (ได้จากนมแม่หรือนมผงเป็นหลัก)

เด็กเล็ก ( 1-8 ปี )

  • ความต้องการแคลเซียมโดยประมาณ 500 - 1,000 มิลลิกรัม/วัน
  • การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้องการแคลเซียมสูงเพื่อรองรับการยืดตัวของกระดูก

วัยรุ่น ( 9-18 ปี )

  • ความต้องการแคลเซียมโดยประมาณ 1,000 - 1,300 มิลลิกรัม/วัน
  • เป็นช่วงสำคัญที่สุด (Critical Period) ในการสะสมมวลกระดูกสูงสุด (Peak Bone Mass) หากได้รับไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อความหนาแน่นกระดูกในระยะยาว

ผู้ใหญ่ ( 19-50 ปี )

  • ความต้องการแคลเซียมโดยประมาณ 800 - 1,000 มิลลิกรัม/วัน
  • รักษาความหนาแน่นของกระดูกที่สะสมมาให้อยู่ในระดับสูงสุด

สตรีมีครรภ์/ให้นมบุตร

  • ความต้องการแคลเซียมโดยประมาณ 1,000 - 1,300 มิลลิกรัม/วัน
  • ความต้องการเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกและป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากมารดา

ผู้สูงอายุ ( 51 ปีขึ้นไป )

  • ความต้องการแคลเซียมโดยประมาณ 1,000 - 1,200 มิลลิกรัม/วัน
  • ต้องการปริมาณสูงเพื่อชดเชยอัตราการสูญเสียมวลกระดูกที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะสตรีวัยหมดประจำเดือน) และลดความเสี่ยงภาวะกระดูกพรุนและกระดูกหัก

วัยเด็กและวัยรุ่น ( 0 - 18 ปี )

  • เน้นการสะสมมวลกระดูกสูงสุด : ให้ความสำคัญกับการบริโภค นมและผลิตภัณฑ์จากนม (เช่น โยเกิร์ต ชีส) รวมถึงอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ถั่ว งา และผักใบเขียวเข้ม
  • ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย : ให้เด็กได้เล่นและออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกปานกลางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการสร้างกระดูก

วัยผู้ใหญ่ ( 19 - 50 ปี )

  • รักษาสภาพมวลกระดูก : ยังคงต้องได้รับแคลเซียมและวิตามินดีอย่างต่อเนื่อง และออกกำลังกายที่มีแรงต้านทาน (Resistance Training) เพื่อคงความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ
  • การตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยง : ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยง

วัยผู้สูงอายุ ( 51 ปีขึ้นไป )

  • ป้องกันการสูญเสียกระดูก : เพิ่มปริมาณแคลเซียมและวิตามินดีที่ได้รับต่อวัน รวมถึงการได้รับวิตามินเค (K) แมกนีเซียม และฟอสฟอรัสที่เพียงพอ
  • ป้องกันการหกล้ม : การออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างการทรงตัวและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (เช่น ไทเก๊ก โยคะ) เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงของการหกล้ม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกระดูกหักในวัยนี้

การดูแลสุขภาพกระดูกไม่ใช่เรื่องที่รอได้จนถึงวัยชรา แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องตลอดชีวิต การสร้างมวลกระดูกสูงสุดตั้งแต่วัยเด็กและวัยรุ่นผ่าน โภชนาการที่สมดุลโดยเฉพาะแคลเซียมและวิตามินดี และการออกกำลังกายที่เหมาะสม คือรากฐานที่มั่นคงที่สุดในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัยจากภาวะกระดูกพรุนในอนาคต

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
"เล็บของคุณ" กำลังบอกอะไรคุณอยู่ ?
ลักษณะเล็บที่ผิดปกติ เช่น เล็บเปลี่ยนสี เล็บขรุขระ เล็บเป็นหลุม หรือเล็บโค้งผิดรูป สามารถบ่งบอกถึงโรคต่างๆ
21 พ.ย. 2025
ปัญหาของวัยทำงาน "ภาวะหมดไฟ"
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) ถือเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญในกลุ่มวัยทำงาน
14 พ.ย. 2025
ภัยเงียบในลำไส้ : ส่องโรคที่พบบ่อย พร้อมความอันตรายถึงชีวิต
โรคที่พบบ่อยเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
18 ต.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy