"เล็บของคุณ" กำลังบอกอะไรคุณอยู่ ?

ลักษณะเล็บสามารถบ่งบอกโรคได้หลายอย่าง เช่น เล็บสีขาวครึ่งเล็บ อาจเกี่ยวข้องกับโรคไตวายเรื้อรัง เล็บบางและแอ่นคล้ายช้อน อาจเกิดจากภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เล็บหนาหรือขรุขระ อาจเป็นเชื้อราหรือโรคสะเก็ดเงิน ส่วน เล็บเป็นเส้นแนวนอน อาจเกิดจากการบาดเจ็บหรือภาวะทุพโภชนาการ หากเล็บมีลักษณะผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
เล็บบ่งบอกโรคได้อย่างไรบ้าง
การเปลี่ยนแปลงของเล็บที่ผิดปกติทั้งด้านสี รูปทรง ผิวสัมผัส และความหนา อาจเป็นสัญญาณของโรคที่เกี่ยวข้องกับเล็บโดยตรง หรือเป็นโรคในระบบอื่นๆ ของร่างกายก็ได้ เช่น
ลักษณะเล็บที่ผิดปกติ บ่งบอกถึงโรคหรือภาวะที่อาจเกี่ยวข้อง
- เล็บสีเหลือง
- การติดเชื้อรา, โรคไทรอยด์อย่างรุนแรง, โรคปอด, โรคเบาหวาน, โรคสะเก็ดเงิน, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- เล็บสีน้ำเงิน/ม่วงคล้ำ
- ร่างกายมีปริมาณออกซิเจนต่ำ อาจเกี่ยวข้องกับโรคปอดหรือโรคหัวใจ
- เล็บมีร่องหรือเป็นหลุม (Pitting)
- โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis), โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema), โรคภูมิแพ้, ภาวะผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata)
- เล็บแยกออกจากฐานเล็บ (Onycholysis)
- โรคสะเก็ดเงิน, การติดเชื้อรา, ไทรอยด์เป็นพิษ, การบาดเจ็บ
- เล็บปุ้ม (Clubbing) / เล็บโค้งลง
- โรคปอด, โรคหัวใจ, โรคตับแข็ง, ปัญหาทางเดินอาหาร
- เล็บรูปช้อน (Koilonychia) / เล็บงุ้มขึ้น
- ภาวะขาดธาตุเหล็ก (โลหิตจาง), ภาวะเหล็กเกิน (Hemochromatosis)
- เล็บขาวครึ่งเล็บ หรือแถบขาว
- โรคไตวายเรื้อรัง, โรคตับแข็ง, โรคหัวใจวาย, โปรตีนในร่างกายต่ำ
- รอยเส้นสีดำหรือน้ำตาลเข้ม (Dark Streak)
- อาจเป็นรอยฟกช้ำจากการบาดเจ็บ หรือเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนัง (Melanoma) ที่เล็บ ควรพบแพทย์ทันที
- ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง
- การติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา, การอักเสบจากการสัมผัสสารเคมี
วิธีการปกป้องและดูแลเล็บให้แข็งแรง
การดูแลเล็บอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เล็บแข็งแรงและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือความเสียหาย
การรักษาความสะอาดและความชุ่มชื้น
- ให้ความชุ่มชื้น : ทาแฮนด์ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงมือและเล็บเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำหรือล้างมือ
- ปกป้องจากน้ำและสารเคมี : ควรสวมถุงมือเมื่อต้องทำงานบ้านที่ต้องสัมผัสกับน้ำนานๆ (เช่น ล้างจาน) หรือสารเคมี (เช่น น้ำยาทำความสะอาด)
- ซับให้แห้ง : หลังล้างมือหรืออาบน้ำ ควรซับมือและซอกเล็บให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการอับชื้นและการติดเชื้อรา
การดูแลจัดการเล็บ
- ตัดเล็บอย่างถูกวิธี : ตัดเล็บมือและเล็บเท้าให้ตรง ไม่ควรตัดสั้นหรือลึกจนเกินไป โดยเฉพาะมุมเล็บเพื่อป้องกันเล็บขบ
- อย่ากัด แงะ แกะ เล็บ : พฤติกรรมเหล่านี้ทำลายหน้าเล็บและเพิ่มความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
- ดูแลหนังกำพร้า : ไม่ควรตัดหนังกำพร้าที่โคนเล็บ เพราะเป็นเกราะป้องกันเชื้อโรค ควรใช้ออยล์บำรุงและดันเบาๆ แทน
- ระวังการทำเล็บ : หากชอบทาเล็บ ควรพักเล็บบ้างและใช้เบสโค้ท (Base Coat) ก่อนทาสีเพื่อป้องกันเล็บเหลือง รวมถึงใช้ออยล์บำรุงเล็บก่อนทาสีเล็บเสมอ
การบำรุงจากภายใน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง (เช่น เนื้อสัตว์, ไข่, นม) และวิตามินที่ช่วยบำรุงเล็บ เช่น
- ไบโอติน (Biotin) : วิตามินบี 7 ช่วยบำรุงเล็บ ผม และผิวหนัง
- ธาตุเหล็ก (Iron) : ป้องกันภาวะโลหิตจางซึ่งอาจทำให้เล็บรูปช้อน สังกะสี (Zinc), วิตามินซี, วิตามินบี 12


